แนวดนตรี สุดฮิต ! ปี 2024

beyonce บียอนเซ่ โนวส์ บียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์ beyonce 2024 (Beyoncé Giselle Knowles) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1981 beyonce grammys 2024 เป็นนักร้องสไตล์อาร์แอนด์บี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์, นักแสดง และ นางแบบ ชาวอเมริกัน เธอเกิดและเติบโตที่ฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ในวัยเด็กบียอนเซ่ได้เข้าร่วมในการแสดงหลากหลายเรียนอนุบาลถึงประถม ซึ่งรวมไปถึงการร้องเพลง อันเป็นการปูทางสำหรับอาชีพการเป็นนักร้อง บียอนเซ่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในช่วงปี 1990 ในฐานะสมาชิกคนสำคัญของDestiny’s Child beyonce jolene cover

beyonce วงดนตรีหญิงล้วนแนวอาร์แอนด์บีชื่อดังในยุคนั้น ตลอดชีวิตการทำงานของเธอ มียอดขายเกินกว่า 100 ล้านชุดในฐานะศิลปินเดียว ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 ระหว่างการพักงานของDestiny’s Childได้ออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็น ครั้งแรกกับ อัลบั้มDangerously in love ซึ่งนับเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในปีนั้น อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและด้านคำวิจารณ์ต่างๆ ทำให้มีเพลงฮิตเช่นเพลง “Crazy in love”, “Baby Boy” และได้รับรางวัลแกรมมีถึง 5 สาขา จนต่อมาDestiny’s Childก็ได้ตัดสินใจแยกวงจากเป็นทางการ หลังจากนั้น เธอก็ได้มีอัลบั้มชุดที่สอง beyonce 2024

นั่นก็คืออัลบั้มB’Day วางขายในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเปิดตัวอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด มีซิงเกิลฮิตอย่าง “Deja Vu”, “Irreplaceable”, และ “Beautiful Liar” อัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 ของเธอI Am… Sasha Fierce ได้วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 มีซิงเกิลฮิต เช่น “If i were a boy”, “Single ladies (Put the ring on it)”, “Halo”, และ “Sweet Dream” บีย่องเซ่มีซิงเกิลที่ติดอันดับ 1 อยู่ทั้งหมด 5 เพลงด้วยกัน ทำให้เธอเป็นหนึ่งในสองศิลปินหญิงที่มีเพลงติดอันดับหนึ่งมากที่สุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 2000 beyonce grammys 2024

จากความสำเร็จอย่างสูงของการเป็นศิลปินเดี่ยวของบีย่องเซ่ ทำให้เธอได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินคนสำคัญคนหนึ่งของอุตสาหกรรมดนตรีในยุคปัจจุบัน และเธอก็ยังขยายงานอาชีพของเธอไปสู่งานทางการแสดงและเซ็นสัญญากับบริษัทสินค้าต่างๆ เธอได้เริ่มอาชีพทางการแสดงของเธอเมื่อปี ค.ศ. 2001 ใน ภาพยนตร์เพลงเรื่อง Carmen: A Hip Hopera ในปี ค.ศ. 2006 เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์ทำใหม่ของละครบรอดเวย์ปี 1981 เรื่อง ‘DREAM GIRLS’ และทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 2 รางวัล

บีย่องเซ่ได้มีธุรกิจสายงานแฟชั่นที่เธอได้ร่วมกับครอบครัว โดยใช้ชื่อว่า “House of Deréon” และได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น เป๊ปซี่, ทอมมี ฮิลฟิกเจอร์, อาร์มานิ และลอเรอัล และในปี ค.ศ. 2009 นี้ นิตยสารฟอร์บยังได้จัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับ 4 ของคนดังที่มีอิทธิพลมากที่สุด, อันดับ 3 ของนักดนตรีที่มีรายได้มากที่สุด, และอันดับหนึ่งของคนดังอายุต่ำกว่า 30 ที่มีรายได้มากที่สุด ด้วยรายได้กว่า 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี ค.ศ. 2008 – ค.ศ. 2009 beyonce jolene cover

แต่ไม่มีอะไรที่จะสุดไปกว่าตอนที่เธอประกาศตั้งครรภ์ทุกครั้ง

ซึ่งบียอนเซ่สร้างปรากฏการณ์หน้าหนึ่งเสมอ เริ่มจากตอนประกาศตั้งครรภ์ลูกคนแรก บลู ไอวี คาร์เตอร์ เธอก็ประกาศโดยการปลดแจ็กเก็ตทักซิโด้ของ Dolce & Gabbana ตอนร้องเพลง Love On Top เสร็จที่งาน MTV Video Music Awards ในปี 2011 และลูบท้องตัวเอง ส่วนตอนประกาศตั้งครรภ์ลูกแฝด รูมี กับเซอร์ คาร์เตอร์

เธอก็เล่นถ่ายแบบสไตล์นางพญาในหลากหลายอิริยาบถที่ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ เช่น The Birth of Venus ของศิลปินอิตาเลียน ซานโดร บอตติเชลลี และ Venus of Urbino ของอีกหนึ่งศิลปินชาวอิตาเลียน ติเชียน ซึ่งช่างภาพที่อยู่เบื้องหลังก็คือ เอวอล อีริซกู ศิลปินชาวอเมริกันที่อพยพมาจากประเทศเอธิโอเปีย โดยภาพที่ปล่อยออกมาก็กลายเป็นภาพที่ถูกไลก์มากที่สุดบนอินสตาแกรม ก่อนที่ไคลี เจนเนอร์ จะมาทุบสถิติกับรูปลูกสาวเธอ สตอร์มี เว็บสเตอร์ beyonce 2024

ทั้งหมดทั้งมวล การที่บียอนเซ่เลือกที่จะแบรนด์ดิ้งตัวเองในทิศทางนี้ถือว่าเธอเก่งมาก และเป็นคนเดียวที่ทำได้ในยุคที่ศิลปินอยากทำให้ตัวเองเข้าถึงง่ายกับเครื่องมือสื่อสารในมือทั้งหลาย บียอนเซ่กลับสร้างตัวเองให้มีออร่าอยู่ตลอดเวลาเหมือนดารายุค Golden Age ที่เป็นตำนานอย่าง อลิซาเบธ เทย์เลอร์ หรือเกรซ เคลลี ที่ไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวจนหมด และจะช่วยสร้างความกระหายให้คนอยากรู้ว่าวันๆ ทำอะไร กินอะไร แต่งตัวอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร ซึ่งคนก็จะจินตนาการและฝันถึงบียอนเซ่ในภาพที่เพอร์เฟกต์สุดๆ beyonce jolene cover

คืนประวัติศาสตร์ของ บียอนเซ

อัลบั้มแห่งปี: Harry’s House, Harry Styles beyonce grammys 2024

รางวัลเพลงแห่งปี (ยกย่องการร้อง และบรรเลง) : “About Damn Time” Lizzo

เพลงแห่งปี (ยกย่องการแต่งเพลง): “Just Like That” — Bonnie Raitt

ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ได้แก่ ซามารา จอย

อัลบั้มเพลงแดนซ์/เพลงอิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม: “Renaissance,” Beyonce

เพลงแดนซ์/เพลงอิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม: “Break My Soul” โดย Beyonce

อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม: “Harry’s House” จาก Harry Styles

อัลบั้มแร็พยอดเยี่ยม: “Mr. Morale & the Big Steppers” Kendrick Lamar

อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยม: “Patient Number 9” Ozzy Osbourne

การแสดงเพลงป๊อปเดี่ยวยอดเยี่ยม: “Easy on Me” โดย Adele

การแสดงเพลงป๊อปดูโอ/กลุ่มยอดเยี่ยม: “Unholy” โดยแซม สมิธ และ คิม เพทราส

อัลบั้ม Americana ที่ดีที่สุด: “In These Silent Days” โดย Brandi Carlile

อัลบั้มคันทรียอดเยี่ยม: “A Beautiful Time” โดย Willie Nelson

มิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยม: “All Too Well (The Short Film)” เทย์เลอร์ สวิฟต์

อัลบั้มเพลงยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินต่างประเทศ : “Sakura” Masa Takumi

เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสำหรับวิดีโอเกมและสื่ออินเทอร์แอกทีฟอื่นๆ: “Assassin’s Creed Ragnarok: Dawn of Ragnarok” โดย Stephanie Economou

บทความแนะนำ