Hip Hop style อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า Hip Hop คือวัฒนธรรมที่ฝังตัวลงไปในทุกชนชาติ hiphop songs ไม่ว่าจะ ตี๋ ผิวเข้ม หรือแม้แต่คนขาว มันได้ก้าวเข้ามาเป็น Mainstream Culture ของโลกในปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังเป็นรากฐานของวัฒนธรรม Street Style ที่แพร่ขยายตัวในปัจจุบัน วันนี้ เลยขอเอาประวัติของเจ้าวัฒนธรรม Rap Yo hiphop มาให้ได้ทำความรู้จักเพื่อเป็นความรู้สนุกๆ และอิงไปกับกระแส Rap Is Now ที่กำลังดังในขณะนี้ hiphop dance
Hip Hop style เริ่มต้นจากกลุ่มคนเชื้อสาย African ที่มาอาศัยในประเทศสหรัฐ และย่านที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ NYC ที่มีคนผิวสีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนจะค่อยๆ แพร่กระจายไปยัง LA ,Houston ,Chicago ,Philadelphia และอีกหลายๆ เมืองในทั่วอเมริกา และหากจะหาจุดเริ่มต้นเราจะต้องย้อนกลับไปถึงปี 1970 ที่เป็นปีบุกเบิกของวัฒนธรรม Hip Hop hiphop songs โดยรากฐานวัฒนธรรมมันคือดนตรี Disco Rap ที่นิยมแพร่หลายอย่างมากในหมู่วัยรุ่นเชื้อสาย Afican-American ที่มักจัดปาร์ตี้ รื่นเริงกัน และกลุ่มแรกที่มีการพูดถึงมากที่สุดก็คือ Ghetto Brother ที่เขาขึ้นโชว์ที่ 163rd Street เนื้อหาของเพลงที่พวกเขาใช้ในการ Rap ก็เกี่ยวข้องกับการขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ ยาเสพติด เรื่องราวต่างๆ
หลังจากนั้นวัตนธรรม Hip Hop ก็สามารถแตกแขนงต่อมาเป็นเรื่องอื่นๆ เช่น Graffity, MC, Disc Jockey, B-Boy ที่เราจะเห็นได้คุ้นตามตามถนนย่านที่มีคนผิวสีรวมตัวอาศัยกันอยู่เพื่อแสดงออกถึงความคิด และวัฒนธรรม ส่วนเรื่องแฟชั่นการแต่งกาย ก็มีแบรนด์ที่ทำเสื้อผ้ามาตอบโจทย์ และเป็นแรงขับเคลื่อนในเวลานั้นก็คือ Le Coq Sportif, Kangol, Adidas และ Pro-Keds hiphop
หลายคนอาจจะเคยสงสัยทำไม Hip Hop ต้องใส่เสื้อตัวใหญ่ เหตุผลก็เพราะในสมัยนั้นคนเชื้อสาย African ที่มาอาศัยในอเมริกาส่วนใหญ่มีฐานะยากจน เสื้อผ้าที่ใส่นั้นก็จะเป็นเสื้อผ้าบริจาค หรือตกทอดกันมาจากพี่ถึงน้อง ทำให้มันมีขนาดไซส์ตัวที่ Oversize กว่าความเป็นจริง ซึ่งเราจะได้เห็นภาพนี้อยู่เต็มไปหมดบริเวณ NYC
ขอย้อนกลับมาถึงเรื่องของดนตรี ช่วงต้นยุค 70s ดีเจในสมัยนั้นส่วนใหญ่จะเล่นดนตรีแนวเบรก-บีท ซึ่งเป็นที่นิยมในการเต้นรำ hiphop songs แต่ DJ Kool Herc และ Grandmaster Flash ได้คิดต่างทำเพลงแนวใหม่แตกแยกดีเจออกมา เพื่อเน้นให้เป็นการเต้นรำได้ตลอดทั้งคืน จังหวะเบรก-บีทนั้นก็คือการพัฒนามาจากเพลง Funk ที่มีพวกเครื่องเล่นเพอร์คัชชันเล่นอยู่ด้วย และนี่ก็เป็นการพัฒนาของดีเจรวมถึงคัตติงด้วย
ส่วนวัฒนธรรมการแร็ปนั้น พวก MC ยุคแรกจะเพียงพูดเพื่อโปรโมทให้ดีเจในงานปาร์ตี้ต่าง ๆ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีการพัฒนาโดยการใส่เนื้อร้องลงไปโดย Melle Mel มักถูกยกเครดิตว่าเป็น MC คนแรก ในช่วงปลายยุค 70s และส่งผลให้ดีเจหลายคนได้ออกแผ่น โดยมีการแร็ปลงจังหวะเพลงลงไป และเพลงที่ดัง ๆ มีอย่างเช่น “Supperrappin” ของ Grandmaster Flash & The Furious Five, “The Breaks” ของ Kurtis Blow และ “Rapper’s Delight” ของ The Sugar Hill Gang เป็นต้น hiphop
Grandmaster Flash & The Furious Five
เรื่อยมาจนจุดที่เรียกได้ว่าเป็น Golden Age ของวงการ Hip Hop คือช่วงทศวรรษที่ 80 ดารานักร้องผิวสีต่างๆ เริ่มได้รับการยอมรับในวงกว้าง เพราะดนตรีที่มีความร่วมสมัย แตกต่างมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน และในช่วงทศวรรษนี้คือช่วงเวลาที่ Rolling Stones ได้ให้คำจำกัดความดนตรีแนวนี้ว่าคือดนตรีแบบ Hip Hop ขึ้นเป็นครั้งแรก hiphop dance
วงที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักๆ ในยุคนี้ก็คือ Run DMC , LL Cool J Public Enemy, Beastie Boys, KRS-One, Eric B. & Rakim, De La Soul, EPMD, A Tribe Called Quest, Slick Rick, Ultramagnetic MC’s, MC Lyte, และ The Jungle Brothers ที่เป็น Old School Hip Hop พวกเขาจะพรีเซ๊นด้วยตัวเองด้วย หมวก Bucket Hat สร้อยทองเส้นใหญ่ เสื้อ Hoodie hiphop dance เสื้อวอร์มกีฬาสีสันต่างๆ หรือแว่น Cazal ที่ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยแห่ง Hip Hop กำลังเริ่มต้นขึ้น บวกกับดนตรีที่มีเนื้อหาแรงๆ เกี่ยวกับชีวิต จังหวะสนุกๆ หลังจากนั้นแฟชั่น และดนตรี Hip Hop ก็หลอมหลวมผลึกกำลังเขย่าโลกไปด้วยกัน และแพร่กระจายไปทั่วหนแห่ง
และนี้ก็เป็นเพียงตำนานเรื่องราวของวัฒนธรรม Hip Hop ในยุคสมัยบุกเบิก สำหรับตอนหน้า UNLOCKMEN จะขอมาต่อในยุค 90s – Modern Age ที่หลายๆ คนน่าจะเริ่มทัน hiphop songs และคุ้นๆ กับช่วงเวลานี้